ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) โดยได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทจดทะเบียนในยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด, ภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวของเยอรมนี และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจากเดือนพ.ย.ปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.16% ปิดที่ 359.52 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,379.65 จุด ร่วง 442.61 จุดหรือ -3.45%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,852.94 จุด ร่วง 105.80 จุดหรือ -2.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,989.99 จุด ร่วง 141.47 จุด หรือ -2.31%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดยตลาดหุ้นเยอรมนีทรุดตัวลงมากที่สุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมา หลังจากปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความว่า "ควรเลื่อนการเลือกตั้งไปจนกว่าประชาชนจะสามารถลงคะแนนเสียงได้อย่างเหมาะสม, มั่นคง และปลอดภัย"
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความ โดยเสนอให้สหรัฐเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. เนื่องจากการส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีการฉ้อโกงมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
"การลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์จะทำให้การเลือกตั้งในปี 2020 เป็นการเลือกตั้งที่ผิดพลาด และมีการฉ้อโกงมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่น่าละอายต่อสหรัฐ เราควรชะลอการเลือกตั้งออกไปจนกว่าประชาชนจะสามารถลงคะแนนได้อย่างปลอดภัย อย่างมั่นคง และอย่างเหมาะสม" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อภาวะการขยายตัวของเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มธนาคาร, กลุ่มประกัน, กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ และกลุ่มพลังงาน ร่วงลงจากแรงเทขายหุ้นในยุโรป
ตลาดยังถูกกดดันหลังสำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหดตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะติดลบ 9%
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19 อาจจะใช้เวลานานกว่าคาด ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐได้ตอกย้ำความวิตกดังกล่าว
การเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปถ่วงตลาดลงด้วย โดยหุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ร่วง 7.81% หลังเปิดเผยผลขาดทุนก่อนหักภาษีในช่วงครึ่งปีแรก และหุ้นบีบีวีเอของสเปน ร่วง 8.07% หลังรายงานกำไรสุทธิ ร่วงเกือบ 50%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลงด้วย โดยหุ้นโฟลค์สวาเกน ร่วง 6.13% หลังเปิดเผยผลขาดทุนจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก และปรับลดการจ่ายเงินปันผล ขณะที่หุ้นเรโนลต์ ดิ่งลง 9.26% หลังรายงานผลขาดทุนสุทธิ 7.29 พันล้านยูโร (8.58 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงครึ่งปีแรก