ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ที่หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี ขณะที่จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนก.ค.
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,920.98 จุด ลดลง 418.25 จุด, -1.87% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,764.17 จุด เพิ่มขึ้น 53.58 จุด, +0.22%
ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฎิ้ลอัดฮา
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2/2563 หดตัวลง 32.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี หรือนับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2490 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งทำให้มีการปิดเศรษฐกิจเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่วนในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา GDP สหรัฐหดตัวลง 5% ซึ่งทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
ส่วนทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.1 จากระดับ 50.9 ในเดือนมิ.ย.
ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว และดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต
ทั้งนี้ นับเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50