ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของอังกฤษมีการขยายตัว เช่นเดียวกับภาคการผลิตของยูโรโซนและสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,032.85 จุด พุ่งขึ้น 135.09 จุด หรือ +2.29%
ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งขึ้น หลังไอเอชเอส มาร์กิต/ซีไอพีเอส เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร อยู่ที่ระดับ 53.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.1 เมื่อเดือนมิ.ย. โดยดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตในสหราชอาณาจักรอยู่ในภาวะขยายตัว
ข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนและของสหรัฐที่มีการขยายตัวนั้น ได้ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนด้วย
หุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยได้แรงหนุนจากราคาสินแร่เหล็กที่ปรับตัวขึ้น
หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นแอสตร้าเซนเนก้าพุ่งขึ้น 2.8%
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะบ่งชี้เกี่ยวกับการคาดการณ์อัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษ