ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวการซื้อกิจการในภาคธุรกิจ ซึ่งรวมถึงข่าวไมโครซอฟท์เจรจาซื้อกิจการ TikTok และกูเกิลเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ADT ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,664.40 จุด พุ่งขึ้น 236.08 จุด หรือ +0.89% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,294.61 จุด เพิ่มขึ้น 23.49 จุด หรือ +0.72% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,902.80 จุด เพิ่มขึ้น 157.53 จุด หรือ +1.47%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 52.6 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.6 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทางด้านไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนก.ค. จากระดับ 49.8 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ
หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 5.62% หลังโมโครซอฟท์ยืนยันว่าทางบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการ TikTok ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้เวลา 45 วันแก่บริษัท ByteDance ของจีนในการเจรจาเพื่อขายกิจการ TikTok ให้แก่ไมโครซอฟท์
หุ้น ADT ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในบ้าน ทะยานขึ้น 56.56% หลังจากกูเกิลประกาศเข้าซื้อหุ้นเกือบ 7% ใน ADT คิดเป็นมูลค่า 450 ล้านดอลาร์
หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม บวก 0.97% หลังจากเซเว่น อีเลฟเว่น อิงค์ ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทสปีดเวย์ แอลแอลซี ซึ่งเป็นเครือร้านสะดวกซื้อและสถานีบริการน้ำมันของมาราธอน ปิโตรเลียม ในวงเงิน 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากแอปเปิลเข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพ Mobeewave ในวงเงิน 100 ล้านดอลลาร์
หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ปรับตัวขึ้น 0.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2
หุ้น Eli Lilly & Co ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.7% ขานรับข่าวที่ว่าทางบริษัทกำลังเริ่มต้นทดสอบยา LY-CoV555 ในเฟสสุดท้าย โดย Eli Lilly พัฒนายา LY-CoV555 ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ร่วมกับบริษัท AbCellera ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของแคนาดา โดยจะมีการทดลองในอาสาสมัครจำนวน 2,400 ราย
นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขยายโครงการช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งได้หมดอายุแล้วในช่วงสิ้นเดือนก.ค. ขณะที่ยังคงมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวงเงินที่จะให้ความช่วยเหลือคนว่างงาน โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้รักษาวงเงินดังกล่าวไว้ที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 1.36 ล้านตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 10.7%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย.