ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่สภาคองเกรสและทำเนียบขาวยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์
ปัจจัยลบดังกล่าวได้บดบังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.ค.
ณ เวลา 21.05 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 27,272.54 จุด ลบ 114.44 จุด หรือ 0.42%
การเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ยังคงมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขีดเส้นตายให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงในวันนี้ มิฉะนั้นเขาจะใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งให้มีการขยายเวลาในการบังคับใช้มาตรการเยียวยาผู้ที่ว่างงานจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่โครงการดังกล่าวได้หมดอายุลงในเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ปธน.ทรัมป์จะมีอำนาจในการออกคำสั่งดังกล่าวได้หรือไม่ เนื่องจากสภาคองเกรสเป็นฝ่ายควบคุมการออกงบประมาณของรัฐบาล
ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายมาร์ก มีโดว์ส หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว ได้ประชุมกันวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี การเจรจามีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลากหลายประเด็น เช่น การต่ออายุโครงการช่วยเหลือคนว่างงาน การให้ความช่วยเหลือต่อรัฐต่างๆ รวมทั้งโรงเรียน และการให้ความช่วยเหลือในด้านอาหาร ค่าเช่า และเงินกู้จำนอง
นอกจากนี้ นายชูเมอร์ยังกล่าวว่า เขาจะไม่ยอมรับข้อตกลง หากไม่มีการขยายเวลาสำหรับโครงการให้ความช่วยเหลือคนว่างงานเป็นจำนวนเงิน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ทางด้านปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเจ้าของติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังสัญชาติจีน โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน
การลงนามคำสั่งดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้เรียกร้องให้มีการแบนแอปพลิเคชันต่างๆ ของจีนจากแพลตฟอร์มแอปสโตร์ของบริษัทสหรัฐ โดยระบุว่าไม่น่าไว้ใจ และเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้ทำการแบนบริษัทจีนบางแห่งด้วยเหตุผลด้านสิทธิมนุษยชน
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันที่จะแบน TikTok ภายในวันที่ 15 ก.ย. นอกจากว่า TikTok จะขายกิจการในสหรัฐให้กับบริษัทของสหรัฐ ขณะที่บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปก็กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการของติ๊กต็อกในสหรัฐ
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 1.763 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.48 ล้านตำแหน่ง แต่ต่ำกว่าระดับ 4.791 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 10.2% โดยต่ำกว่าระดับ 11.1% ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.6%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 4.791 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านตำแหน่ง และปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 2.725 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 2.699 ล้านตำแหน่ง