ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยปรับตัวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ขานรับความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐและแกนนำในสภาคองเกรสจะสามารถตกลงกันได้ในประเด็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,710.60 จุด เพิ่มขึ้น 380.66 จุด, +1.70% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,962.48 จุด เพิ่มขึ้น 585.05 จุด, +2.40% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,575.82 จุด เพิ่มขึ้น 4.16 จุด, +0.26%
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดกว้างต่อการเจรจาครั้งใหม่กับแกนนำพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกับคาดการณ์ว่า รัฐบาลและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หากพรรคเดโมแครต"มีเหตุมีผล"
ทางด้านปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายชัค ชูเมอร์ แกนนำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ต้องการที่จะพบกับเขาเพื่อทำข้อตกลงในการออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งให้ขยายระยะเวลาในการให้เงินช่วยเหลือผู้ว่างงานจนถึงช่วงสิ้นปีนี้ในอัตรา 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ หลังจากที่โครงการช่วยเหลือดังกล่าวได้หมดอายุลงในปลายเดือนที่แล้ว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 หดตัวลง 13.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นซึ่งระบุว่า GDP ไตรมาส 2 หดตัวลง 12.6%
หากเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 2/2563 ของสิงคโปร์ หดตัวลง 42.9% ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP หดตัวลง 41.2%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ทั้งเมื่อเทียบเป็นรายปีและรายไตรมาสนั้น มาจากผลกระทบของมาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19