ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจีนและเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,154.34 จุด เพิ่มขึ้น 103.75 จุด หรือ +1.71%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่จีนเปิดเผยข้อมูลยอดขายรถยนต์ เพิ่มขึ้น 16.4% ในเดือนก.ค.เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยตลาดรถยนต์จีนซึ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโรคโควิด-19
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี หลังศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 71.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 59.3 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 58.0
หุ้นอินเตอร์คอนติเนนทัล โฮเทลส์ พุ่ง 4.7% หลังเปิดเผยว่า มีสัญญานการฟื้นตัวของอุปสงค์การเข้าพักโรงแรม หลังหลายตลาดที่สำคัญผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด-19
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเดฟ แรมสเดน รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า BoE จะเพิ่มมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หากเศรษฐกิจชะลอตัวอีกครั้ง โดยอังกฤษจะเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในวันพุธนี้
ตลาดหุ้นอังกฤษปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นเอเชียและตลาดหุ้นวอลล์สตรีทด้วย เนื่องจากนักลงทุนมองว่าความขัดแย้งของจีนและสหรัฐไม่ได้ลุกลามไปสู่ด้านการค้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคอังกฤษใช้จ่ายมากที่สุดในเดือนก.ค.นับตั้งแต่รัฐบาลดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดกั้นโควิด-19 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มพลังงาน, กลุ่มประกันชีวิต และกลุ่มที่เกี่ยวกับการเดินทาง ปรับตัวขึ้นมากที่สุด