ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (14 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,931.02 จุด เพิ่มขึ้น 34.30 จุด หรือ +0.12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,372.85 จุด ลดลง 0.58 จุด หรือ +0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,019.30 จุด ลดลง 23.20 จุด หรือ -0.21%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.8%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.6% และดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 0.1%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทางตั้งแต่การซื้อขายในช่วงเช้า หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.9% หลังจากที่ดีดตัวขึ้น 8.4% ในเดือนมิ.ย.
บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ข้อมูลยอดค้าปลีกดังกล่าวบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลง ซึ่งตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นักลงทุนยังคงชะลอการซื้อขายหุ้น ขณะรอคอยการอนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ โดยการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสมาชิกสภาพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวหยุดชะงักมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังลังเลที่จะซื้อขายหุ้นหลังจากมีรายงานข่าวว่า สหรัฐและจีนได้ยกเลิกแผนการที่จะประชุมทางไกลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อประเมินความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าเฟสแรก โดยรายงานข่าวระบุว่า การประชุมดังกล่าวระหว่างนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนและนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐนั้น ได้ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด
หุ้นแอพพลายด์ แมตทีเรียลส์ อิงค์ พุ่ง 3.9% หลังคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ หลังความต้องการอุปกรณ์ชิป และบริการต่างๆ ดีดตัวขึ้น
หุ้น CureVac ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี พุ่งขึ้นกว่า 200% ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาด Nasdaq ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่บริษัทพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ทำการเทรดหุ้น IPO ในตลาด
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 1.8% หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุน หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เทสลาประกาศแผนแตกหุ้น 5 ต่อ 1 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ส.ค.นี้
หุ้นเอเอ็มซี เอ็นเทอร์เทนเมนต์ พุ่ง 4.3% หลังเปิดเผยว่า บริษัทวางแผนจะเริ่มเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ในวันที่ 20 ส.ค.นี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ได้แก่ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ขยับขึ้นสู่ระดับ 72.8 ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 72.0 จากระดับ 72.5 ในเดือนก.ค., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 5.7% ในเดือนมิ.ย. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ลดลง 1.1% ในเดือนมิ.ย. หลังจากดิ่งลง 2.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2535