ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) โดยบวกขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นขานรับธนาคารกลางจีนอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,127.44 จุด เพิ่มขึ้น 37.40 จุด หรือ +0.61%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ซึ่งปรับตัวขึ้นขานรับการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการเงินผ่านทางการดำเนินการทางตลาด (Open Market Operations: OMO) ในวันจันทร์เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด
ทั้งนี้ แบงก์ชาติจีนได้อัดฉีดเงิน 7 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.009 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงินเมื่อวันจันทร์ผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) โดยโครงการดังกล่าวมีอายุการไถ่ถอนในระยะเวลา 1 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 2.95%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นตามกัน โดยหุ้นริโอ ทินโต บวก 1.66%, หุ้นบีเอชพี เพิ่มขึ้น 1.39%, หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 2.83%, หุ้นอีฟแรซ บวก 1.50% และหุ้นเกล็นคอร์ ปรับตัวขึ้น 1.92%
แต่หุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการยังคงร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นของโรคโควิด-19 และการที่อังกฤษสั่งกักตัวผู้เดินทางจากฝรั่งเศสเป็นเวลา 14 วัน โดยหุ้นอีซี่เจ็ตและหุ้น TUI ร่วงลง 4.59% และ 5.07% ตามลำดับ ขณะที่หุ้น IAG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ร่วง 5.29%