ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ขณะที่หุ้นกลุ่มสายบินทะยานขึ้นหลังรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่ากำลังดำเนินการเพื่อที่จะย่นระยะเวลากักกันตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,111.98 จุด เพิ่มขึ้น 35.36 จุด หรือ +0.58%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่สดใสขึ้น หลังดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ของสหรัฐพุ่งทำนิวไฮ
หุ้นกลุ่มสายการบินหนุนตลาดขึ้น โดยหุ้น IAG ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่ง 7.6% และหุ้นอีซี่เจ็ต พุ่ง 3.3% ขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังหารือกับสนามบินฮีทโธรว์เกี่ยวกับแผนการที่จะใช้การทดสอบหาเชื้อโควิด-19 เพื่อช่วยร่นระยะเวลาการกักกันผู้เดินทางเข้าประเทศ
หุ้นแอสโซซิเอเต็ด บริติช ฟู้ดส์ เจ้าของแบรนด์ Primark บวก 1.9% หลังดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษพุ่งขึ้นในเดือนก.ค.สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
สำนักงานสถิติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.0% ในเดือนก.ค. จากระดับ 0.6% ในเดือนมิ.ย. โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 0.6%
ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย เนื่องจากร้านขายเสื้อผ้าและรองเท้าไม่ได้ลดราคาขาย แม้ปกติแล้วช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงจัดโปรโมชันลดราคา และยังเป็นช่วงที่ร้านค้าเหล่านี้เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการหลังถูกสั่งปิดเพราะโรคโควิด-19 ด้วย