ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลง หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับความเสี่ยงสูง พร้อมกับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ ในขณะที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกมาตรการดังกล่าวจนถึงขณะนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 22,948.86 จุด ลดลง 161.75 จุด, -0.70% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 24,662.71 จุด ลดลง 516.20 จุด, -2.05%
ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สูงมาก และคาดว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งขึ้นอยู่กับว่าการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนั้น จะสามารถทำได้เป็นวงกว้างและมีเสถียรภาพมากเพียงใด
รายงานการประชุมเฟดยังระบุด้วยว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 โดยสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทรุดตัวลงอีก และจะนำไปสู่ภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ"
นอกจากนี้ รายงานการประชุมเฟดยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่ โดยระบุว่า "มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่มีความจำเป็นต่อการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีความจำเป็นต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง"
การแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวของกรรมการเฟดมีขึ้นในช่วงเวลาที่สภาคองเกรสและทำเนียบขาวยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องการให้เงินทุนสนับสนุนการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์จำนวน 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเขามองว่าการส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะนำไปสู่การฉ้อโกงในการเลือกตั้ง