ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิล และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,930.33 จุด เพิ่มขึ้น 190.60 จุด หรือ +0.69%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,397.16 จุด เพิ่มขึ้น 11.65 จุด หรือ +0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,311.80 จุด เพิ่มขึ้น 46.85 จุด หรือ +0.42%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ทรงตัว, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.7% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.7%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 54.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน จากระดับ 50.3 ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะขยายตัวทั้งในภาคการผลิตและบริการ โดยภาคบริการมีการขยายตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 24.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2511 และเมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค.
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มเทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 1.21% ส่วนกลุ่มพลังงานปรับตัวแย่สุด โดยลดลง 0.63%
หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 5.15% ซึ่งช่วยหนุนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น, หุ้นเทสลา พุ่ง 2.41% โดยทะยานขึ้นต่อเนื่องก่อนการแตกหุ้น และหุ้น Deere & Co พุ่งขึ้น 4.40% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 27-28 ส.ค. โดยการประชุมดังกล่าวจะปรับรูปแบบเป็นการเสวนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในหัวข้อ "Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy" ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบการประชุมครั้งแรกในรอบเกือบ 40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไฮไลท์ของการประชุมจะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ