ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ไร้ทิศทาง และการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งบดบังความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการรักษาโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.30% ปิดที่ 369.75 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,061.62 จุด ลดลง 4.92 จุด หรือ -0.04% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,037.01 จุด ลดลง 67.72 จุด หรือ -1.11% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,008.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มทรัพยากรของอังกฤษ หลังเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นซึ่งกระทบรายได้จากต่างประเทศของกลุ่มบริษัทดังกล่าว
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของยุโรปยังคงเป็นปัจจัยถ่วงตลาดลง โดยเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลงเป็นประวัติการณ์ 9.7% ในไตรมาส 2/2563
นอกจากนี้ การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงเกินคาดถ่วงตลาดลงด้วย เนื่องจากบ่งชี้ถึงแนวโน้มภาวะชะงักงันของเศรษฐกิจสหรัฐ
หุ้นโฟล์คสวาเก้น และหุ้นไฮเดลเบิร์กซีเมนต์ของเยอรมนี ปิดลบ 1.16% และ 1.14% ตามลำดับ, หุ้นอาร์เซลอร์มิตตัล และหุ้นออเรนจ์ของฝรั่งเศส ปิดลดลง 1.62% และ 0.80% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นไอทีวีของอังกฤษ ร่วง 3.26% และ 3.32%