ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 83.48 จุด,Nasdaq ทำนิวไฮต่อเนื่อง รับแรงซื้อหุ้นเทคโนฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 27, 2020 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ยังคงปิดทำนิวไฮ เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ว่าธุรกิจในภาคส่วนดังกล่าวจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการที่ประชาชนต้องพึ่งพาระบบออนไลน์ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,331.92 จุด เพิ่มขึ้น 83.48 จุด หรือ +0.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,478.73 จุด เพิ่มขึ้น 35.11 จุด หรือ +1.02% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,665.06 จุด เพิ่มขึ้น 198.59 จุด หรือ +1.73%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก,แอปเปิล,แอมะซอน,เน็ตฟลิกซ์ และอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล) โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ทะยานขึ้น 8.22% หุ้นแอปเปิล บวก 1.36% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.85% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 11.61% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.38% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.16%

หุ้นเซลส์ฟอร์ซดอทคอม (Salesforce.com) ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอฟท์แวร์ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ทะยานขึ้น 26.04% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่ S&P Dow Jones Indices LLC ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ได้ประกาศนำหุ้นของเซลส์ฟอร์ซดอทคอม เข้ารวมอยู่ในดัชนีดาวโจนส์ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.นี้

หุ้นโมเดอร์นา ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ พุ่งขึ้น 6.42% หลังจากบริษัทแถลงว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในเฟสแรกกับอาสาสมัครที่มีอายุมากนั้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเหมือนกับที่ทดลองกับอาสาสมัครในวัยหนุ่มสาว

หุ้นฮิวเล็ต แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรซ์ พุ่งขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 6.42% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของเทสลาขึ้นสู่ระดับ 2,500 ดอลลาร์ ขณะที่ระดับปิดของราคาหุ้นเทสลาเมื่อคืนนี้อยู่ที่ 2,153.17 ดอลลาร์

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 11.2% ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.3% หลังจากดีดตัวขึ้น 7.6% ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดและแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันนี้ เวลา 09.10 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.10 น.ตามเวลาไทย โดยการประชุมประจำปีของเฟดจะจัดขึ้นในวันที่ 27-28 ส.ค. ในหัวข้อ "Navigating the Decade Ahead: Implications for Monetary Policy"

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ