ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน หลังถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนแอ และจากการร่วงลงของตลาดหุ้นอังกฤษแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นสวนทางตลาด เนื่องจากหุ้นของบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ของแอปเปิล อิงค์ ปรับตัวขึ้นขานรับข่าวแอปเปิลวางแผนผลิตโทรศัพท์ iPhone เพิ่มขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.35% ปิดที่ 365.23 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,938.10 จุด ลดลง 9.12 จุด หรือ -0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,862.05 จุด ลดลง 101.52 จุด หรือ -1.70% แต่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,974.25 จุด เพิ่มขึ้น 28.87 จุด หรือ +0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและสันทนาการร่วงลงมากที่สุด เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในโปรตุเกสทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการกักตัวผู้เดินทางในประเทศ
หุ้นกลุ่มการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารของยุโรป ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อยูโรโซนที่ต่ำกว่าคาด ได้เพิ่มการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมในไม่ช้านี้
แต่หุ้นซัพพลายเออร์ของแอปเปิลพุ่งขึ้นตามกัน อาทิ หุ้นไดอาล็อก เซมิคอนดักเตอร์, หุ้นอินฟิเนียน, หุ้นเอสทีไมโคร และหุ้นเอเอสเอ็มแอล หลังแอปเปิลวางแผนที่จะผลิตโทรศัพท์ iPhone ระบบ 5G จำนวน 75 ล้านเครื่องก่อนเปิดตัวภายในปีนี้
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ถ่วงตลาดหุ้นยุโรปลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยุโรปลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนส.ค. โดยลดลงจาก 0.4% ในเดือนก.ค.
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานในยูโรโซนดีดตัวแตะระดับ 7.9% ในเดือนก.ค. จากระดับ 7.7% ในเดือนมิ.ย.
อัตราการว่างงานในยูโรโซนปรับตัวขึ้น จากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ว่าหลายประเทศได้เริ่มเปิดให้ธุรกิจในภาคส่วนต่างๆกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
ส่วนไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.7 ในเดือนส.ค. จากระดับ 51.8 ในเดือนก.ค.