ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยไม่มีการทำข้อตกลงการค้า ขณะที่การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีถ่วงตลาดลงมากที่สุด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.15% ปิดที่ 363.75 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,973.52 จุด ลดลง 80.20 จุด หรือ -1.59%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,930.30 จุด ลดลง 7.10 จุด หรือ -0.12% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,968.33 จุด ลดลง 131.95 จุด หรือ -1.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงโดยถูกกดดันจากความวิตกว่า อังกฤษเริ่มการเจรจาการค้ารอบใหม่กับ EU ในสัปดาห์นี้ และเปิดเผยว่าได้เตรียมการที่จะถอนตัวออกจากอียูโดยไม่มีการทำข้อตกลงการค้า เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับข้อตกลงการค้ามูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอถ่วงตลาดลงด้วย โดยเยอรมนีเปิดเผยยอดส่งออกเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค. แต่ยังต่ำกว่าระดับก่อนเกิดวิกฤตโรคระบาดอย่างมาก และเศรษฐกิจยูโรโซนลดลงน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2 แต่ก็ยังคงเป็นการลดลงอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ นักลงทุนชะลอการซื้อขายลง ขณะรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซร่วงลง 3.7% รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 11 สัปดาห์ หลังราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 8% จากความวิตกด้านอุปสงค์ ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.1%
หุ้นโททาลของฝรั่งเศส ร่วง 3.65% และหุ้น SAP ซึ่งเป็นบริษัทผลิตซอฟท์แวร์ของเยอรมนี ร่วงลง 2.47%