ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทรุดตัวกว่า 700 จุดในวันนี้ ท่ามกลางปัจจัยลบหลายประการที่กระทบตลาด
ณ เวลา 21.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,919.13 จุด ลบ 738.29 จุด หรือ 2.67%
หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างก็ปรับตัวลงในวันนี้ เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
นักลงทุนกังวลว่าอาจมีการล็อกดาวน์ระลอกใหม่ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
ขณะนี้ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 31 ล้านราย โดยสหรัฐเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดในโลกจำนวนกว่า 7 ล้านราย
ตลาดยังมีความวิตกต่อความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ เพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ การเสียชีวิตของนางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐ ก็อาจกระทบต่อกระบวนการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดแทนนางกินส์เบิร์กในวันศุกร์ หรือวันเสาร์นี้
ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มธนาคารต่างก็ทรุดตัวลง หลังจากมีรายงานข่าวของเว็บไซต์ของสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ระบุว่า ธนาคารหลายแห่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมโอนเงินที่ต้องสงสัย โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากเอกสารของเครือข่ายสืบสวนอาชญากรรมทางการเงินสหรัฐ (FinCen) ที่หลุดออกไปถึงสื่อของสหรัฐ และถูกแชร์เป็นวงกว้างโดย ICIJ
ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งทั่วโลกได้ปล่อยให้มีการโยกย้ายเงินผิดกฎหมายจำนวนมากเป็นเวลานานเกือบ 20 ปี แม้จะมีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเงินดังกล่าวก็ตาม โดยเอกสารลับของ FinCen ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ในระหว่างปี 2542-2560 ซึ่งเงินเหล่านี้ได้รับอนุมัติการทำธุรกรรมโดยหน่วยงานภายในของสถาบันการเงินที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย
นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า เขาจะไม่อนุมัติการขายกิจการของติ๊กต็อก (TikTok) ให้แก่ออราเคิล คอร์ป และวอลมาร์ท อิงค์ หากไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของติ๊กต็อกยังคงถือหุ้นส่วนใหญ่
"ถ้าเราพบว่าออราเคิลและวอลมาร์ทไม่ได้เข้าถือหุ้นทั้งหมด เราก็จะไม่อนุมัติข้อตกลงดังกล่าว โดยเราจะยังคงจับตาดูอย่างใกล้ชิด" ปธน.ทรัมป์กล่าว