ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอมะซอนดอทคอมที่ทะยานขึ้นเกือบ 5.7% นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,288.18 จุด เพิ่มขึ้น 140.48 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,963.64 จุด เพิ่มขึ้น 184.84 จุด หรือ +1.71% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,315.57 จุด เพิ่มขึ้น 34.51 จุด หรือ +1.05%
ดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ แม้ตลาดเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่หลายประเทศในยุโรปใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงซื้ออย่างคึกคัก นำโดยหุ้นแอมะซอนดอทคอม พุ่งขึ้น 5.69% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทแบร์สเติร์นได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอมะซอนดอทคอมสู่ระดับ "outperform" จากระดับ "market perform" ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก ดีดขึ้น 2.66% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.41% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 2.08% หุ้นแอปเปิล บวก 1.57%
หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นโคคา โคล่า พุ่งขึ้น 1.16% หุ้นเป๊ปซี่โค โค บวก 0.69% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) เพิ่มขึ้น 0.91% หุ้นคิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค บวก 0.79%
หุ้นเทสลา ร่วงลง 5.6% หลังจากอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบใหม่ในงาน "Battery Day" อย่างไรก็ดี นายมัสก์กล่าวว่าเทคโนโลยีแบบใหม่ที่เปิดเผยในงานนี้จะยังไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากจนกว่าจะถึงปี 2565
หุ้นออราเคิล ปรับตัวลง 0.33% หลังจากหนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส ซึ่งเป็นสื่อของพรรคคอมมิวสต์จีนรายงานว่า รัฐบาลจีนไม่มีแนวโน้มที่จะอนุมัติข้อตกลงที่บริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ทำร่วมกับออราเคิลและวอลมาร์ทเกี่ยวกับการขายกิจการติ๊กต็อก (TikTok) ในสหรัฐ โดยระบุว่า เงื่อนไขของข้อตกลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสหรัฐต้องการกลั่นแกล้งและทำลายความมั่นคงของจีน
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดเข้าให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธตามเวลาสหรัฐ และจะเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ
ส่วนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายพาวเวลได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนส.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 24.7% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลในปี 2511
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.