ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด
ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,740.49 จุด ลบ 22.64 จุด หรือ 0.08%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่างปรับตัวลงในการซื้อขายวันนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 870,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 840,000 ราย และสูงกว่าระดับ 866,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่าคาดดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 6.867 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค. จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาคธุรกิจปิดกิจการ และมีการปลดพนักงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ปฏิเสธที่จะให้คำมั่นสัญญาว่า การส่งมอบอำนาจบริหารจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.นี้ ก็ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ขณะเดียวกัน ตลาดยังมีความวิตกต่อความขัดแย้งระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงมีความเห็นต่างเกี่ยวกับขนาดและขอบข่ายของมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งได้หมดอายุลงแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. ซึ่งพรรครีพับลิกันต้องการลดวงเงินช่วยเหลือคนว่างงานลงสู่ระดับ 300 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ขณะที่พรรคเดโมแครตต้องการรักษาวงเงินดังกล่าวที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ หลังจากที่ได้เข้าแถลงต่อคณะอนุกรรมการว่าด้วยวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ในสภาคองเกรสเมื่อวานนี้