ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 329.04 จุด รับข้อมูลศก.สดใส,มาตรการกระตุ้นศก.คืบหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 1, 2020 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่นักลงทุนซึมซับผลการดีเบตรอบแรกเมื่อวานนี้ ซึ่งผลสำรวจบ่งชี้ว่า นายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,781.70 จุด พุ่งขึ้น 329.04 จุด หรือ +1.20% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,363.00 จุด เพิ่มขึ้น 27.53 จุด หรือ +0.83% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,167.51 จุด เพิ่มขึ้น 82.26 จุด หรือ +0.74%

อย่างไรก็ดี ตลอดทั้งเดือนก.ย. ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 2.3% ขณะที่ดัชนี S&P500 ร่วงลง 3.9% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 5.2% โดยทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวลงรายเดือนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สำหรับภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นขานรับสัญญาณความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เข้าร่วมการเจรจาครั้งใหม่เมื่อวานนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพและกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส พุ่งขึ้น 3.467% หุ้นไฟเซอร์ ดีดขึ้น 1.47% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่งขึ้น 1.27% หุ้นเมอร์ค แอนด์ โค เพิ่มขึ้น 1.28% ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.12% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 1.35% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 2.35%

หุ้นแฮสโบร ซึ่งเป็นบริษัทผลิตของเล่นรายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์สตีเฟลได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเฮสโบร

หุ้นวอลท์ดิสนีย์ ปรับตัวลง 1.1% หลังมีรายงานว่าบริษัทเตรียมปลดพนักงานราว 28,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานในสวนสนุกที่สหรัฐ หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการเปิดรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งยังคงปิดให้บริการ

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 749,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 650,000 ตำแหน่ง โดยได้รับแรงหนุนจากภาคก่อสร้าง ภาคขนส่ง และภาคสาธารณูปโภค

ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 8.8% แตะระดับ 132.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2563 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 31.4% ซึ่งแม้ว่าเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 70 ปี แต่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ยังดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งระบุว่า GDP หดตัวลง 31.7% และดีกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ซึ่งระบุว่า GDP หดตัวลง 32.9%

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 8.2% ในเดือนก.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนส.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ