ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 28,000 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ขานรับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการดีขึ้น และล่าสุดได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ รวมทั้งรายงานดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,148.64 จุด เพิ่มขึ้น 465.83 จุด หรือ +1.68% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,332.49 จุด เพิ่มขึ้น 257.47 จุด หรือ +2.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,408.63 จุด เพิ่มขึ้น 60.19 จุด หรือ +1.80%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของปธน.ทรัมป์ หลังมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาการดีขึ้น ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า ปธน.ทรัมป์ออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีดแล้วในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 เป็นเวลา 4 วัน
นักวิเคราะห์จากบริษัทสเตทสโตน เวลธ์ ในสหรัฐกล่าวว่า นักลงทุนต่างก็ให้มีความหวังว่า ยาที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ให้กับปธน.ทรัมป์จะได้รับการผลักดันให้สามารถนำออกสู่สาธารณชนเป็นวงกว้างและรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ หลังจากนายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และปธน.ทรัมป์เองก็มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีข้อตกลงดังกล่าว
นายมีโดวส์ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันศุกร์ เขาก็ได้ติดต่ออย่างใกล้ชิดกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ราคาหุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นทุกกลุ่ม นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 2.12% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 6.48% ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น นำโดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.08% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2.03% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 1.81% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 1.87%
หุ้น Regeneron Pharmaceuticals พุ่งขึ้น 7.13% หลังจากคณะแพทย์ของปธน.ทรัมป์ยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์ได้รับการรักษาด้วยแอนติบอดี้ของบริษัท Regeneron
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.8 ในเดือนก.ย. จากระดับ 56.9 ในเดือนส.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56.0 โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน
นักลงทุนจับตาการประชันวิสัยทัศน์ของคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน และนางคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ในการดีเบตวันที่ 7 ต.ค.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนส.ค., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค. และรายงานการประชุมเดือนก.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)