ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) แต่ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มส่งออก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,949.94 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด หรือ +0.12%
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุน หลังแหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยว่า อังกฤษและ EU ใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิด้านประกันสังคมระหว่างกันสำหรับพลเมืองหลัง Brexit และแหล่งข่าวระบุว่า การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเป็นไปในเชิงบวกมากที่สุดจนถึงขณะนี้
นอกจากนี้ ความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
อย่างไรก็ตาม ความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเศรษฐกิจหลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้น และเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์นั้น ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการปรับตัวขึ้นของต้นทุนการกู้ยืมทั่วโลก
หุ้นเอชเอสบีซี บวก 1.60% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด พุ่ง 2.43%
นอกจากนี้ หุ้นโรลส์-รอยซ์ พุ่ง 21.56% และหุ้น IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่ง 7.06%