ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แสดงความหวังว่ามีความเป็นไปได้ในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปหลังจาก Brexit รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้อังกฤษต้องออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดครั้งใหม่
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,978.03 จุด เพิ่มขึ้น 31.78 จุด หรือ +0.53%
ตลาดปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนหลังนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE เปิดเผยว่า BoE พร้อมที่จะใช้นโยบายในการจำกัดผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ระบาดรอบสอง
นอกจากนี้ นายเบลีย์ยังคาดว่าอังกฤษและสหภาพยุโรปจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันได้หลังจาก Brexit
หุ้นกลุ่มน้ำมันนำตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐ
หุ้นเชลล์และหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.67% และ 2.32% ตามลำดับ หลังราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือ 43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณการขาดแคลนน้ำมันดิบด้วย เนื่องจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคน "เดลต้า" ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกต้องถูกระงับมากกว่า 90%
หุ้น IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่งขึ้น 10.26%