ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 21.50 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,713.97 จุด ลบ 123.55 จุด หรือ 0.43%
ดัชนีดาวโจนส์ถูกกดดัน หลังจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส และแบล็คร็อคต่างดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาดในไตรมาส 3
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น J&J ปรับตัวลง แม้เปิดเผยผลประกอบการที่สดใส เนื่องจากบริษัทได้ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบว่าอาสาสมัครในโครงการทดลองรายหนึ่งได้ล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
ราคาหุ้นแอปเปิลร่วงลงกว่า 1% ก่อนการจัดอีเวนต์ในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงคืนตามเวลาไทย โดยคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone 12 จำนวน 4 รุ่น ซึ่งได้แก่ iPhone 12 Mini ซึ่งมีหน้าจอ 5.4", iPhone 12 ซึ่งมีหน้าจอ 6.1", iPhone 12 Pro มีหน้าจอ 6.1" และ iPhone 12 Pro Max หน้าจอ 6.7"
ราคาหุ้นแอมะซอน ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ ปรับตัวลง 0.2% แม้มีข่าวว่าบริษัทจะจัดงาน Prime Day ในวันที่ 13-14 ต.ค.
ทั้งนี้ Prime Day เป็นวันช็อปปิ้งระดับโลกที่แอมะซอนจัดขึ้น โดยมีการลดราคาสินค้าอย่างมากสำหรับสมาชิก Prime จำนวนนับล้านรายการเพื่อกระตุ้นยอดขายประจำปี
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จัดการประชุมประจำปีร่วมกับธนาคารโลกผ่านทางระบบออนไลน์ในวันนี้ พร้อมกับการเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO)
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.4% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9%
อย่างไรก็ดี IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับ 5.2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะขยายตัว 5.4%
IMF ระบุว่า การทบทวนปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่ดีกว่าคาดของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงไตรมาส 2 ขณะที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่รวดเร็วขึ้นในไตรมาส 3
อย่างไรก็ดี IMF เตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และไม่ต่อเนื่อง รวมทั้งต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ขณะที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 4.3% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 8.0% ก่อนที่จะมีการขยายตัว 3.1% ในปีหน้า
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำเนียบขาวยื่นข้อเสนอครั้งใหม่แก่พรรคเดโมแครต โดยเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ยังคงต่ำกว่าวงเงินที่พรรคเดโมแครตเสนอที่ระดับ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์