ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 23.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,552.28 จุด ลบ 127.53 จุด หรือ 0.44%
นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังมีความคืบหน้าในบางด้านเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายมนูชินกล่าวว่า ตนและนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้หารือกันในหลายประเด็นในวันนี้ และจะมีการเจรจาต่อไปในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ดี นายมนูชินยอมรับว่า การบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. ถือเป็นเรื่องที่ยาก โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
ทั้งนี้ นางเพโลซีได้ปฏิเสธข้อเสนอวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว โดยระบุว่า วงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีผลประกอบการในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ และการซื้อขายตราสารหนี้ โดยธนาคารมีกำไร 9.68 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.57 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.078 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.46 พันล้านดอลลาร์
แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 แต่กำไรสูงเกินคาด โดยธนาคารมีรายได้ 2.045 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 51 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49 เซนต์/หุ้น
เวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ โดยธนาคารมีกำไร 42 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 45 เซนต์/หุ้น อย่างไรก็ดี ธนาคารมีรายได้ 1.886 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.797 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้เข้าร่วมการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และบริษัท Eli Lilly & Co ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองแอนติบอดีสำหรับการรักษาโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย