ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด ขานรับคาดการณ์ที่ว่าทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐภายในวันนี้ ซึ่งเป็นเส้นตายที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐอาจอนุญาตให้มีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินในเดือนธ.ค. หากวัคซีนดังกล่าวมีผลการทดลองทางคลินิกเป็นที่น่าพอใจในเดือนพ.ย.
ณ เวลา 21.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,436.73 จุด บวก 241.31 จุด หรือ 0.86%
ราคาหุ้นบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคแห่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
ทั้งนี้ P&G เปิดเผยกำไรที่ระดับ 1.63 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ 1.932 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.838 หมื่นล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันนี้ว่า เขาคาดว่าวุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันจะให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่ผ่านความเห็นชอบของนางเพโลซี และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ แม้ว่าจะมีวุฒิสมาชิกบางรายที่แสดงท่าทีคัดค้านก่อนหน้านี้
"ผมต้องการให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีวงเงินมากกว่าที่พรรคเดโมแครตเสนอเสียอีก แต่ไม่ใช่ทุกคนในพรรครีพับลิกันจะเห็นด้วยกับผม แต่พวกเขาจะเห็นด้วยในที่สุด" ปธน.ทรัมป์กล่าว
โฆษกของนางเพโลซีเปิดเผยว่า นางเพโลซีและนายมนูชินได้มีการหารือกันทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ ซึ่งการเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ โดยทั้งสองฝ่ายสามารถลดช่องว่างของความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ก่อนหน้านี้ นางเพโลซีได้กำหนดเส้นตาย 48 ชั่วโมงสำหรับการบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเส้นตายดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันนี้ เพื่อให้สภาคองเกรสมีเวลาเตรียมการสำหรับการผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
ทั้งนี้ นางเพโลซีได้ปฏิเสธข้อเสนอวงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ของทำเนียบขาว โดยระบุว่า วงเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาผลกระทบของโควิด-19 ขณะที่พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.เวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันศุกร์ที่ 23 ต.ค.เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย
การดีเบตดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ผลสำรวจของทุกสำนักโพลล์ต่างฟันธงว่าไบเดนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้
การดีเบตในครั้งนี้จะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยเบลมอนต์ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยมีคริสเทน เวลเกอร์เป็นพิธีกร
สำหรับหัวข้อในการแสดงวิสัยทัศน์ในการดีเบตรอบนี้ ได้แก่ การแก้ปัญหาโควิด-19, ภาวะการเป็นผู้นำสหรัฐ, ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติในสหรัฐ, การแก้ไขปัญหาโลกร้อน รวมทั้งประเด็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ และภาคครัวเรือนในสหรัฐ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.415 ล้านยูนิต แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.457 ล้านยูนิต จากระดับ 1.388 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเขตมิดเวสต์
ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวพุ่งขึ้น 8.5% สู่ระดับ 1.108 ล้านยูนิต
ส่วนการก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัว ซึ่งรวมถึงอพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม ดิ่งลง 16.3% สู่ระดับ 307,000 ยูนิต
นอกจากนี้ การอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 5.2% สู่ระดับ 1.553 ล้านยูนิต