ดัชนีดาวโจนส์พุ่งต่อเนื่องกว่า 300 จุด หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐอาจอนุญาตให้มีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินในเดือนธ.ค. หากวัคซีนดังกล่าวมีผลการทดลองทางคลินิกเป็นที่น่าพอใจในเดือนพ.ย.
ณ เวลา 01.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,501.60 จุด บวก 306.18 จุด หรือ 1.09%
ราคาหุ้นบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังเปิดเผยกำไรและรายได้ในเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ตามปีงบการเงินของบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้อานิสงส์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคแห่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
P&G เปิดเผยกำไรที่ระดับ 1.63 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ดอลลาร์/หุ้น
ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ 1.932 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.838 หมื่นล้านดอลลาร์
นางเพโลซีกล่าวว่า พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวใกล้จะบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ก่อนที่ตนจะสนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ในวันนี้
อย่างไรก็ดี นางเพโลซีไม่ได้ให้ความสำคัญต่อกำหนดเส้นตายที่มีการประกาศก่อนหน้านี้เพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจภายในวันนี้ โดยนางเพโลซีส่งสัญญาณว่าการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป
นางเพโลซีระบุว่า การที่จะให้สภาคองเกรสออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. สมาชิกสภาคองเกรสจะต้องมีการบรรลุข้อตกลง และมีการเขียนร่างกฎหมายภายในสัปดาห์นี้
"มันไม่ได้หมายความว่าวันนี้คือวันที่เราจะได้ข้อตกลง แต่เป็นวันที่เราจะสามารถมีความเห็นร่วมกันเกี่ยวกับเงื่อนไขของเราเพื่อไปสู่ขั้นตอนต่อไป" นางเพโลซีกล่าว
ก่อนหน้านี้ นางเพโลซีได้กำหนดเส้นตาย 48 ชั่วโมงสำหรับการบรรลุข้อตกลงในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเส้นตายดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันนี้ เพื่อให้สภาคองเกรสมีเวลาเตรียมการสำหรับการผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
ล่าสุด ทำเนียบขาวได้เสนอเพิ่มวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ระดับ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ก็ยังต่ำกว่าที่พรรคเดโมแครตเสนอที่ระดับ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.เวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันศุกร์ที่ 23 ต.ค.เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย
การดีเบตดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ผลสำรวจของทุกสำนักโพลล์ต่างฟันธงว่าไบเดนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้
การดีเบตในครั้งนี้จะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยเบลมอนต์ในเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี โดยมีคริสเทน เวลเกอร์เป็นพิธีกร
สำหรับหัวข้อในการแสดงวิสัยทัศน์ในการดีเบตรอบนี้ ได้แก่ การแก้ปัญหาโควิด-19, ภาวะการเป็นผู้นำสหรัฐ, ความขัดแย้งด้านเชื้อชาติในสหรัฐ, การแก้ไขปัญหาโลกร้อน รวมทั้งประเด็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ และภาคครัวเรือนในสหรัฐ
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.415 ล้านยูนิต แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.457 ล้านยูนิต จากระดับ 1.388 ล้านยูนิตในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค ยกเว้นในเขตมิดเวสต์
ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวพุ่งขึ้น 8.5% สู่ระดับ 1.108 ล้านยูนิต
ส่วนการก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัว ซึ่งรวมถึงอพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียม ดิ่งลง 16.3% สู่ระดับ 307,000 ยูนิต
นอกจากนี้ การอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 5.2% สู่ระดับ 1.553 ล้านยูนิต