ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในการผลักดันมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐรอบใหม่ และคาดการณ์กันว่า ตลาดอาจจะต้องรอมาตรการดังกล่าวไปจนกว่าจะถึงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,210.82 จุด ลดลง 97.97 จุด หรือ -0.35%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,435.56 จุด ลดลง 7.56 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,484.69 จุด ลดลง 31.80 จุด หรือ -0.28%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่การเจรจาระหว่างนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐและนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐในวันพุธนั้น ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และมีการคาดการณ์กันว่า ทั้งสองฝ่ายอาจจะเลื่อนการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงไปหลังการเลือกตั้ง
ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.
ทั้งนี้ ในขณะที่เหลือเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี นางเพโลซีและนายมนูชินยังคงมีความขัดแย้งกันเกี่ยวกับประเด็นที่สำคัญซึ่งได้แก่ การให้เงินช่วยเหลือต่อมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคธุรกิจ
"หลายประเด็นสำคัญยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การบรรลุข้อตกลงไม่น่าจะเป็นไปได้" นายอเล็ก ฟิลลิปส์ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงาน
"ในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และเวลาก็เหลือน้อยลง ทำให้คุณเพโลซีและคุณมนูชินคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง และต่อให้ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้ง" รายงานระบุ
ทั้งนี้ หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดตลาดปรับตัวลง โดยกลุ่มพลังงานร่วงลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ ขณะที่กลุ่มบริการด้านสื่อสารปรับตัวขึ้นมากที่สุด
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 6.92% หลังเปิดเผยจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด แต่หุ้นสแนป อิงค์ พุ่งขึ้น 28.34% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยจำนวนผู้ใช้แอป Snapchat และรายได้ที่สูงเกินคาด
บรรดานักลงทุนจะจับตาการดีเบตรอบสุดท้ายระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตในวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.นี้เวลา 21.00-22.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันศุกร์ที่ 23 ต.ค.เวลา 08.00-09.30 น.ตามเวลาไทย