ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดจากการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ในอังกฤษ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงการค้าหลัง Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการเชิงบวกจากธนาคารเอชเอสบีซี
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,728.99 จุด ลดลง 63.02 จุด หรือ -1.09%
ตลาดถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการควบคุมครั้งใหม่กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือนต.ค.ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มประกันถ่วงตลาดลงท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยหุ้นบีพี ร่วง 2.13% และหุ้นเชลล์ ร่วง 2.54% ขณะที่หุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 3.43% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 3.196%
แต่หุ้นเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 3.4% สวนทางตลาด หลังธนาคารส่งสัญญาณยกเครื่องแบบจำลองทางธุรกิจ รวมถึงการลดขนาดและต้นทุนทางธุรกิจ