ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการกำหนดมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ในอังกฤษหลังยอดติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป (EU) หลังการแยกตัว (Brexit) ส่งผลกดดันตลาดด้วย
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,582.80 จุด ลดลง 146.19 จุด หรือ -2.55%
นักลงทุนเทขายหุ้น เนื่องจากวิตกเกี่ยวกับผลกระทบด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังจากมีรายงานข่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ กำลังเผชิญแรงกดดันให้ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ที่ระบาดรอบสอง
นักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยแผนการใช้จ่ายระยะ 1 ปีของรัฐบาลอังกฤษในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ซึ่งจะเน้นการรับมือกับโรคระบาดและปกป้องตำแหน่งงาน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าหลังBrexit ด้วย โดยอังกฤษยืนยันว่าจะไม่ยอมลดข้อเรียกร้องที่มีต่อสหภาพยุโรปที่เกี่ยวกับด้านการประมง
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มผู้ผลิตสินค้าส่วนบุคคล และกลุ่มธนาคาร นำตลาดร่วงลง โดยหุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 2.65%, หุ้นแองโกลอเมริกัน ร่วง 5.07% และหุ้นเอชเอสบีซี ร่วง 3.36%