ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,581.75 จุด ลดลง 1.05 จุด หรือ -0.02%
ตลาดถูกกดดันจากความวิตกว่า การแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 อาจกระตุ้นให้มีการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ที่รุนแรงมากขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ผลวิจัยของอิมพีเรียล คอลเลจพบว่า การติดเชื้อโควิด-19 ของอังกฤษนั้นเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกๆ 9 วัน
หุ้นกลุ่มการบินและกลุ่มค้าปลีกถ่วงตลาดลง
หุ้นบีที กรุ๊ป ร่วงลง 2.5% หลังเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอาจจะไม่กลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดจนกว่าจะถึงปี 2565-2566
หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ทรุด 7.7% หลังเตือนว่า ธนาคารจะต้องใช้เวลานานขึ้นในการบรรลุเป้าหมายความสามารถในการทำกำไร อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แต่หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2.3% หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวของเงินกู้เพื่อซื้อบ้าน
หุ้นเชลล์ พุ่งขึ้น 3.6% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสสูงเกินคาดและปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผล