ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า หากนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งอย่างชัดเจน จะนำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งผลักดันให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มรถยนต์
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.34% ปิดที่ 356.01 จุด
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,805.61 จุด เพิ่มขึ้น 114.47 จุดหรือ +2.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,088.98 จุด เพิ่มขึ้น 300.70 จุด หรือ +2.55% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,786.77 จุด เพิ่มขึ้น 131.80 จุด หรือ +2.33%
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งขานรับสัญญาณที่ว่า นายไบเดนมีคะแนนนำเหนือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในผลการสำรวจทั่วประเทศ แม้ว่าการแข่งขันจะสูสีในรัฐ swing state หลายรัฐก็ตาม
ชัยชนะของไบเดนจะถือเป็นปัจจัยบวกกับตลาดหุ้นยุโรปในระยะใกล้ เพราะคาดว่าจะนำไปสู่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ขึ้น และจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีขึ้นกับสหรัฐ
หุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดยุโรปปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 6.1%
หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ปรับตัวขึ้นขานรับความหวังที่ไบเดนจะชนะการเลือกตั้งด้วย หลังจากที่หุ้นกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลทรัมป์ทำสงครามการค้ากับจีน
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มประกัน, กลุ่มบริการการเงิน รวมถึงกลุ่มก่อสร้างและวัสดุ ปรับตัวขึ้นด้วย
หุ้นโรลส์-รอยซ์ โฮลดิ้งส์ของอังกฤษ พุ่ง 9.72% และหุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศส พุ่ง 6.77% ขณะที่หุ้นอลิอันซ์ของเยอรมนี พุ่ง 4.42%