ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืน ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งจะเปิดทางให้คณะบริหารของนายไบเดนสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,273.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด, +0.07% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 23,619.58 จุด เพิ่มขึ้น 324.10 จุด, +1.39% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,790.00 จุด ลดลง 149.73 จุด, -0.60% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 12,766.86 จุด เพิ่มขึ้น 30.85 จุด, +0.24% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,361.32 จุด เพิ่มขึ้น 18.01 จุด, +0.77% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,502.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.96 จุด, +0.20% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,464.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.04 จุด, +0.21%
แซค แพนเดิล นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดปรากฎการณ์ "Blue Wave" หรือสถานการณ์ที่นายไบเดนสามารถเอาชนะปธน.ทรัมป์ และพรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็จะเปิดทางให้คณะทำงานของนายไบเดนสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
นอกจากผลการเลือกตั้งแล้ว นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ย. และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้