คาดวอลล์สตรีทร้อนแรงวันนี้ หลังดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานกว่า 400 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 5, 2020 18:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะยานกว่า 400 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากวานนี้ ขานรับคาดการณ์การคว้าชัยชนะของนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่

ณ เวลา 18.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 460 จุด หรือ 1.66% สู่ระดับ 28,195 จุด

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายไบเดนยังคงมีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 264 เสียง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ 214 เสียง โดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 เสียงเท่านั้นก็จะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง เพื่อชนะการเลือกตั้ง

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ หลังพบว่าคะแนนเสียงของนายไบเดนเริ่มตีตื้นขึ้นจนแซงหน้าปธน.ทรัมป์ในรัฐสำคัญใน Swing State หรือ Battleground State ซึ่งเป็นรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งเริ่มนับคะแนนบัตรเลือกตั้งที่มีการส่งทางไปรษณีย์

จากการสำรวจพบว่า ผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งซึ่งสนับสนุนพรรคเดโมแครตมักนิยมลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ ในขณะที่กลุ่มสนับสนุนพรรครีพับลิกันนิยมไปลงคะแนนที่คูหาเลือกตั้ง

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายไบเดน โดยพรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

หากพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรสทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็จะช่วยขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างราบรื่น หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แต่ถ้าหากพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ก็จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเช่นกัน โดยจะทำให้นโยบายการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายไบเดนอาจไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ทำให้บริษัทจดทะเบียนยังคงได้รับประโยชน์จากการลดอัตราภาษีในรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ต่อไป

นอกจากนี้ การถ่วงดุลอำนาจดังกล่าว จะช่วยลดแนวโน้มที่รัฐบาลของนายไบเดนอาจทำการออกมาตรการคุมเข้มบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐเพื่อป้องกันการผูกขาดตลาด

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 530,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 7.7%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ