ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกยอดโควิดพุ่ง-รอผลเลือกตั้งสหรัฐ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.20% ปิดที่ 366.40 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,960.88 จุด ลดลง 23.11 จุด หรือ -0.46% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,480.02 จุด ลดลง 88.07 จุด หรือ -0.70% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,910.02 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด หรือ +0.07% ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในวันศุกร์หลังบวกขึ้นติดต่อกัน 5 วันซึ่งหนุนตลาดปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. นักลงทุนขายหุ้นยุโรปเพื่อทำกำไร ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ในยุโรป นอกจากนี้ นักลงทุนยังขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้นายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำและใกล้ที่จะชนะการเลือกตั้งแล้วก็ตาม ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยื่นฟ้องศาลเพื่อให้มีการนับคะแนนใหม่ในรัฐสมรภูมิที่นายไบเดนมีคะแนนนำ หุ้นลุฟท์ฮันซา ร่วง 6.9% หลังเยอรมนีเตือนเกี่ยวกับการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังเดนมาร์ก, อิตาลี และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ

หุ้นสายการบินอีซีเจ็ตของอังกฤษ ร่วง 2.6% หลังระบุว่าการล็อกดาวน์ในอังกฤษ, เยอรมนีและฝรั่งเศส ส่งผลให้สายการบินต้องปรับลดเที่ยวบินลง หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง หลังพุ่งขึ้นอย่างมากในสัปดาห์นี้ขานรับความหวังว่าชัยชนะของไบเดนอาจทำให้นโยบายการค้าของสหรัฐเป็นไปอย่างผ่อนปรนมากขึ้น แต่หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวขึ้น หลังบริษัทอลิอันซ์ของเยอรมนี รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 3/2563 เพิ่มขึ้น 6% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น เนื่องจากราคาโลหะปรับตัวขึ้นหลังจากที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง