นายมาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนตลาดเกิดใหม่ และผู้ก่อตั้งบริษัทโมเบียส แคปิตอล พาร์ทเนอร์สเปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันศุกร์ว่า หากนายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ก็จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากนายไบเดนมีแผนการที่จะเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากบริษัทและชาวอเมริกันที่ร่ำรวย
โมเบียสระบุว่า "แผนการปรับขึ้นภาษีของไบเดนจะลดความน่าสนใจของนักลงทุนในการเข้าซื้อหุ้นในตลาดวอลล์สตรีท"
"แต่ปธน.ไบเดนจะเป็นผลดีสำหรับสำหรับตลาดเกิดใหม่ และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก เพราะนักลงทุนจะถอยออกจากตลาดสหรัฐ"
ทั้งนี้ นายโมเบียสแสดงความเห็นดังกล่าว หลังจากไบเดนมีคะแนนนำโดนัลด์ ทรัมป์ และใกล้จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
"จะเกิดผลกระทบด้านความมั่งคั่งในสหรัฐ หากประชาชนที่ลงทุนในตลาดหุ้นคาดว่า ความมั่งคั่งของพวกเขาจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษี พวกเขาก็จะระงับการลงทุน" โมเบียสกล่าว
ไบเดนมีแผนที่จะเก็บภาษีคนรวย หรือประชาชนที่มีรายได้ 2 แสนดอลลาร์ต่อปีซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทุนในตลาดหุ้นมากที่สุดด้วย
ดัชนี MSCI All Country World Index ปรับตัวขึ้น 0.25% สู่ 592.84 เมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ 0.24% หลังมีรายงานข่าวว่า นายไบเดนใกล้จะคว้าชัยเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่เขามีคะแนนนำปธน.ทรัมป์ในรัฐสมรภูมิต่างๆ
นักลงทุนระดับโลกบางรายมีความเห็นต่างจากนายโมเบียส โดยระบุว่าไบเดนจะไม่สามารถปรับขึ้นภาษีได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากพรรครีพับลิกันที่ยังคงได้ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา จะขัดขวางแผนการดังกล่าวของไบเดน
ด้านปธน.ทรัมป์ได้ยื่นฟ้องในรัฐต่างๆ เพื่อให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งจะทำให้ผลการเลือกตั้งล่าช้าออกไป และเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐ