ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (6 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ว่านายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตมีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และใกล้ที่จะได้รับชัยชนะก็ตาม นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,323.40 จุด ลดลง 66.78 จุดหรือ -0.24%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,509.44 จุด ลดลง 1.01 จุดหรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,895.23 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด หรือ +0.04%
อย่างไรก็ตาม ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 6.87%, ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 7.33% และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 9.02% ซึ่งดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์คิดเป็นเปอร์เซนต์สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดลดลง โดยกลุ่มพลังงาน ร่วงลง 2.14% ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุด ขณะที่หุ้นสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวขึ้น 0.44%
หุ้นเฮอร์ชีย์ พุ่ง 3.32% หลังเปิดเผยรายได้และผลกำไรไตรมาส 3 สูงเกินคาด และคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการทั้งปีสดใส
ส่วนหุ้นเอ็กซ์ซอน ลดลง 1.18% และหุ้นเชฟรอน ลบ 1.37%
ตลาดถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แม้ว่านายไบเดนมีคะแนนใกล้ที่จะชนะการเลือกตั้งแล้วก็ตาม หลังจากที่เขามีคะแนนนำปธน.ทรัมป์ในรัฐเพนซิลเวเนียและจอร์เจีย ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ยื่นฟ้องในรัฐสมรภูมิต่างๆ เพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตลาดปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยแนวโน้มที่จะเกิดภาวะชะงักงันด้านนโยบายในสหรัฐ เนื่องจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตไม่มีเสียงข้างมากในทั้งสองสภานั้น ได้คลายความวิตกในตลาดที่ว่ารัฐบาลของนายไบเดนอาจจะคุมเข้มกฎระเบียบกับบริษัทสหรัฐมากขึ้น ซึ่งหากพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในสภา ก็มีแนวโน้มจะสกัดกั้นการผลักดันนโยบายของนายไบเดนซึ่งรวมถึงการขยายโครงการประกันสุขภาพและการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านสภาวะอากาศ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลอัตราการว่างงานลดลงอย่างมากในเดือนต.ค. แต่การฟื้นตัวของตลาดแรงงานยังคงชะลอตัว เนื่องจากขาดมาตรการสนับสนุนด้านการคลัง และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้น
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 638,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 530,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานร่วงลงสู่ระดับ 6.9% ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 7.7% หลังจากแตะระดับ 7.9% ในเดือนก.ย.
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทะลุ 10 ล้านรายแล้ว แตะ 10,035,353 ราย และมีผู้เสียชีวิต 241,986 ราย