ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส และนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้น และมีการออกมาตรการเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดในสหรัฐก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,479.81 จุด เพิ่มขึ้น 399.64 จุด หรือ +1.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,585.15 จุด เพิ่มขึ้น 48.14 จุด หรือ +1.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,829.29 จุด เพิ่มขึ้น 119.70 จุด หรือ +1.02%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ บวก 4.1% และดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.2% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ลดลง 0.6%
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดบวก โดยกลุ่มพลังงานและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น 3.81% และ 2.28% ตามลำดับ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ หลังจากการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนในสัปดาห์นี้ ขณะที่ตลาดปรับตัวขึ้นลงโดยถูกผลักดันระหว่างความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 และความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้น
หุ้นซิสโก้ ซิสเตมส์ พุ่งขึ้น 7.06% และหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ บวก 2.16% หลังเปิดเผยผลประกอบการดีเกินคาด
นักวิเคราะห์จากสเตท สตรีท โกลบอล แอดไวเซอร์สระบุว่า "บรรยากาศการซื้อขายได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และแนวโน้มการผลิตวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง"
หุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจปรับตัวขึ้นนำตลาด รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคาร, กลุ่มพลังงาน, กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับแนวโน้มที่รัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีแผนการที่จะดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ทั่วสหรัฐเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. ส่วนผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 77 ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า ดัชนีจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 82 จากระดับ 81.8 ในเดือนต.ค.