ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นโบอิ้ง หลังจากที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) มีมติอนุมัติให้เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX ขึ้นบินอีกครั้ง
ณ เวลา 21.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,903.27 จุด บวก 119.92 จุด หรือ 0.4%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 12% ในเดือนนี้ ตอบรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อิงค์
ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงในวันนี้ว่า ผลการวิเคราะห์ข้อมูลในขั้นสุดท้ายบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งสองบริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพ 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
ไฟเซอร์ระบุว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า วัคซีน BNT162b2 มีประสิทธิภาพอย่างมากในการป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังการฉีดวัคซีนเข็มแรกเป็นเวลา 28 วัน โดยพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในอาสาสมัครทุกกลุ่ม แม้อยู่ในวัย เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ที่แตกต่างกัน โดยมีผลข้างเคียงในระดับต่ำ
นอกจากนี้ ผลการทดลองในกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงต่อโรคโควิด-19 พบว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า 94%
ไฟเซอร์เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าวต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในอีกไม่กี่วัน ขณะที่บริษัทคาดว่าจะผลิตวัคซีนจำนวน 50 ล้านโดสในปีนี้ และ 1,300 ล้านโดสในปีหน้า
ก่อนหน้านี้ บริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ แถลงว่า ผลการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ 94.5% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ โมเดอร์นาได้พัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวน 30,000 ราย
โมเดอร์นายังระบุว่าวัคซีนของทางบริษัทสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิ 36-46 องศาฟาห์เรนไฮต์ ซึ่งเป็นอุณหภูมิในตู้เย็นมาตรฐานที่ใช้ในครัวเรือน และสามารถเก็บรักษาได้นาน 30 วัน
นอกจากนี้ วัคซีนของโมเดอร์นายังสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 6 เดือน หากมีการจัดเก็บในอุณหภูมิ -4 องศาฟาห์เรนไฮต์
คุณสมบัติในการจัดเก็บวัคซีนของโมเดอร์นาถือว่าดีกว่าวัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งจำเป็นต้องจัดเก็บในอุณหภูมิ -94 องศาฟาห์เรนไฮต์
ราคาหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 4% หลังจากที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) มีมติอนุมัติให้เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX ขึ้นบินอีกครั้ง หลังจากถูกสั่งห้ามบินนานถึง 20 เดือน จากการที่เครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุในปี 2561 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน
"ผมมีความเชื่อมั่น 100% ในความปลอดภัยของโบอิ้ง 737 MAX และเราได้ทำทุกอย่างเพื่อรับประกันว่าอุบัติเหตุเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก" นายสตีฟ ดิกสัน ผู้อำนวยการ FAA กล่าว
การอนุมัติดังกล่าวของ FAA ทำให้บริษัทโบอิ้งสามารถดำเนินการส่งมอบเครื่องบิน 737 MAX จำนวน 450 ลำที่ถูกสั่งห้ามบินตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนต.ค. สู่ระดับ 1.530 ล้านยูนิต จากระดับ 1.459 ล้านยูนิตในเดือนก.ย. นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.460 ล้านยูนิตในเดือนต.ค.