ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 25,566.93 จุด ลดลง 161.21 จุด, -0.63% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,394.26 จุด ลดลง 150.03 จุด, -0.57% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,590.99 จุด ลดลง 13.76 จุด, -0.86%
ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงในวันนี้ว่า ผลการวิเคราะห์ข้อมูลในขั้นสุดท้ายบ่งชี้ว่า วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งสองบริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพ 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี นักลงทุนมีความวิตกกังวลเนื่องจากโรคโควิด-19 ยังคงระบาดหนักทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐ ซึ่งยังคงติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต
นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กซิตี้แถลงว่า โรงเรียนรัฐบาลทุกแห่งในนิวยอร์กซิตี้จะปิดการเรียนการสอน และให้เปลี่ยนไปเรียนทางไกลแทน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย.เป็นต้นไป เพื่อปกป้องชุมชนให้ปลอดภัย หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในนิวยอร์กซิตี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในขณะนี้รัฐนิวยอร์กได้กลายเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดในสหรัฐ
นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอนเซิล ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า การประกาศปิดโรงเรียนในนิวยอร์กซิตี้ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐย่อมสะท้อนให้เห็นถึงภาวะวิกฤตของการแพร่ระบาด ซึ่งแม้ว่ามีข่าวคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามว่า การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจะเริ่มต้นได้เมื่อใด เนื่องจากวัคซีนยังอยู่ในขั้นตอนของการทดลอง