ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงเกือบ 200 จุด หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ยืนยันว่าจะไม่ต่ออายุโครงการเงินกู้เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งริเริ่มโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งการตัดสินใจกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอาจจะสร้างความขัดแย้งระหว่างเฟดและกระทรวงการคลัง
ณ เวลา 13.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 192 จุด หรือ 0.65% แตะที่ 29,251 จุด
นายมนูชินได้ส่งจดหมายถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยระบุว่า โครงการเงินกู้เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 วงเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งริเริ่มโดยเฟดนั้น จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และจะไม่มีการต่ออายุโครงการดังกล่าว
นายมนูชินระบุในจดหมายว่า เม็ดเงิน 4.55 แสนล้านดอลลาร์ที่จัดสรรให้กับกระทรวงการคลังภายใต้มาตรการ CARES Act เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น เงินส่วนใหญ่ดังกล่าวได้ถูกจัดสรรให้กับเฟดเพื่อใช้ในโครงการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และรัฐบาลท้องถิ่น โดยเฟดควรคืนเงินที่ไม่ได้ใช้ให้กับสภาคองเกรสเพื่อนำไปใช้ในด้านอื่นๆ ต่อไป
"ผมขอให้เฟดดำเนินการคืนเงินส่วนที่ไม่ได้ใช้ให้กับกระทรวงการคลัง" นายมนูชินระบุในจดหมายที่ส่งถึงนายพาวเวล โดยปฏิเสธที่ต่ออายุโครงการดังกล่าวที่เฟดมองว่ามีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นว่าจะมีสินเชื่อไหลเวียนไปถึงทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจทรุดตัวลงอย่างหนักในรอบ 100 ปี
ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายมนูชินนับว่าอยู่เหนือความคาดหมายของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เฟดได้เรียกร้องให้มีการขยายโครงการปล่อยกู้ดังกล่าว นอกจากนี้ ถ้อยแถลงนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงความยุ่งยากที่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ จะต้องเผชิญในอนาคต เนื่องจากเฟดมองว่า โครงการเงินกู้นี้มีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดการเงินและนักลงทุน