ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 30,000 จุดครั้งแรกเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ ขานรับความชัดเจนของทิศทางการเมืองสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,417.52 จุด เพิ่มขึ้น 14.7 จุด, +0.43% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,468.52 จุด เพิ่มขึ้น 302.93 จุด, +1.16% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,819.96 จุด เพิ่มขึ้น 231.76 จุด, +0.87% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 13,860.95 จุด เพิ่มขึ้น 53.82 จุด, +0.39% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,637.34 จุด เพิ่มขึ้น 19.58 จุด, +0.75% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,903.16 จุด เพิ่มขึ้น 11.53 จุด, +0.40% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,582.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.92 จุด, +0.25%
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่เหนือระดับ 30,000 จุดครั้งแรกเป็นประวัติการณ์ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้มอบหมายให้นางเอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (General Services Administration - GSA) เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ซึ่งทำให้นายไบเดนสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ เพื่อเปิดทางให้เขาสามารถเข้าทำหน้าที่ในทำเนียบขาวได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ขณะที่ไฟเซอร์ระบุว่า วัคซีน BNT162b2 ที่ไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับบริษัท BioNTech นั้น มีประสิทธิภาพมากถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ที่มีประสิทธิภาพ 94.5%