ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 4-5 พ.ย. โดยระบุว่า กรรมการเฟดอาจจะเสนอสัญญาณชี้นำแบบใหม่สำหรับการซื้อสินทรัพย์ในเร็วๆ นี้ ขณะที่เฟดพยายามหาลู่ทางที่จะพยุงเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 26,470.28 จุด เพิ่มขึ้น 173.42 จุด, +0.66% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,672.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด, +0.01% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,601.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.26 จุด, +0.27%
รายงานประชุมเฟดระบุว่า "เมื่อพิจารณาเรื่องการซื้อสินทรัพย์ กรรมการเฟดประเมินว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะเพิ่มการถือครองหลักทรัพย์ของกระทรวงการคลัง และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) อย่างน้อยก็ให้เท่ากับระดับในปัจจุบัน"
"กรรมการเฟดหลายคนมองว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) อาจต้องการปรับปรุงสัญญาณชี้นำสำหรับการซื้อสินทรัพย์ในเร็วๆ นี้ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่สนับสนุนการกำหนดสัญญาณชี้นำสำหรับการซื้อสินทรัพย์ที่อยู่บนพื้นฐานของผลลัพธ์ที่ได้รับอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสัญญาณชี้นำในลักษณะนี้มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ FOMC ประมาณการเอาไว้ว่าจะดำเนินการซื้อสินทรัพย์โดยพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจ"
สำหรับการประชุมเฟดซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 4-5 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ พร้อมระบุว่า เฟดจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน รวมทั้งใช้เครื่องมืออื่นตามที่จำเป็น โดยขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางเศรษฐกิจ