ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวเร็วขึ้นในปีหน้า หลังจากมีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ขณะที่ข่าวการเจรจาควบรวมกิจการของธนาคารในยุโรปได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.41% ปิดที่ 393.23 จุด
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,598.18 จุด เพิ่มขึ้น 31.39 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,335.68 จุด เพิ่มขึ้น 49.11 จุด หรือ +0.37% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,367.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.65 จุด หรือ +0.07%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น
หุ้นธนาคาร BBVA ของสเปน พุ่งขึ้น 4.2% ขานรับข่าวการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการกับธนาคาร Banco Sabadell เพื่อสร้างธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสเปน
หุ้นเอชเอสบีซี บวก 1.76%, หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพิ่มขึ้น 0.54%, หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับตัวขึ้น 1.06% และหุ้นดอยซ์แบงก์ เพิ่มขึ้น 0.71%
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ และจำนวนผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาล ลดลง
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า บวก 0.3% เนื่องจากอังกฤษและประเทศอื่นๆ เร่งผลักดันการอนุมัติใช้วัคซีนต้านโรคโควิดของแอสตร้าเซนเนก้า แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับผลการทดลองวัคซีนขั้นสุดท้ายของบริษัทก็ตาม