ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นตามราคาทองแดงและสินแร่เหล็ก ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่ชะลอลง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) หลังจากอังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.01% ปิดที่ 391.72 จุด
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,574.36 จุด ลดลง 8.65 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,252.86 จุด ลดลง 60.38 จุด หรือ -0.45% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,490.27 จุด เพิ่มขึ้น 26.88 จุด หรือ +0.42%
ตลาดได้แรงหนุนจากราคาหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นยกแผงหลังราคาทองแดงและสินแร่เหล็กดีดตัวขึ้น โดยหุ้นริโอ ทินโต, หุ้นเกล็นคอร์ และหุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับตัวขึ้น 2.71%, 3.46% และ 4.14% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นโรลส์-รอยซ์ ซึ่งพุ่งขึ้น 16% หลังมีรายงานว่า บริษัทกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะกลับเข้าสู่ตลาดผลิตเครื่องบินเจ็ทแบบลำแคบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะถอนตัวออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลง เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนหดตัวลงอย่างรุนแรงในเดือนพ.ย.ได้ส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ร่วงลงสู่ระดับ 41.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. จากระดับ 46.9 ในเดือนต.ค.