ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันหลังอังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,555.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.16 จุด หรือ +0.08%
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง ท่ามกลางความวิตกว่าอังกฤษและ EU จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า โดยนักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่อังกฤษและ EU ซึ่งกำลังดำเนินความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าในสัปดาห์นี้ โดยนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะพูดคุยกันทางโทรศัพท์เวลา 16.00 น.ของวันจันทร์ตามเวลาอังกฤษ หรือ 23.00 น. ตามเวลาไทย เพื่อเดินหน้าเจรจาข้อตกลงการค้าหลังอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ทั้งนี้ เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นได้ช่วยหนุนตลาดด้วย แต่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ หลังยอดติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้เกิดการล็อกดาวน์รอบใหม่ และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยหุ้นเชลล์ ลดลง 0.09%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซน
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่า ECB จะประกาศซื้อพันธบัตรเพิ่มขึ้น