ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนขานรับความพยายามครั้งสุดท้ายของอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างกันให้ได้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายสิ้นปีนี้ที่อังกฤษจะต้องถอนตัวออกจาก EU (Brexit) และนักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า อังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.20% ปิดที่ 393.64 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,278.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.49 จุด หรือ +0.06% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,558.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.43 จุด หรือ +0.05% ขณะที่ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,560.67 จุด ลดลง 12.71 จุด หรือ -0.23%
ตลาดปรับตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า ผู้นำอังกฤษและ EU จะประชุมกันในไม่กี่วันข้างหน้านี้เพื่อพยายามจะบรรลุข้อตกลงการค้ แม้บรรดาเจ้าหน้าที่แสดงความไม่แน่ใจมากขึ้นหลังการเจรจาล้มเหลวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ตลาดยังขานรับข่าวที่ว่าอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคแล้วในวันอังคารนี้ ซึ่งนับเป็นประเทศยุโรปชาติแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนดังกล่าวให้กับประชาชน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.0 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 39.0 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 45.5
หุ้นซีเมนส์, หุ้น BASF และหุ้น Deutsche Boerse ของเยอรมนีปรับตัวขึ้น 1.76%, 1.43% และ 1.21% ตามลำดับ