ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอาจเผชิญกับความล่าช้าและไม่แน่นอน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นเฟซบุ๊กที่ดิ่งลงหลังจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐยื่นฟ้องเฟซบุ๊กในข้อหาผูกขาดตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,068.81 จุด ลดลง 105.07 จุด หรือ -0.35% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,672.82 จุด ลดลง 29.43 จุด หรือ -0.79% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,338.95 จุด ลดลง 243.82 จุด หรือ -1.94%
นักลงทุนเริ่มกังวลต่อความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ หลังจากมาตรการล็อกดาวน์ที่สหรัฐนำมาใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดนั้น ได้ส่งผลให้ประชาชนคนตกงานหลายล้านคน
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.16 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดสรรเงินช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ ในขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงท่าทีคัดค้าน
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก และเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดตลาดอ่อนแรงลง โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.93% หลังจากคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ได้ยื่นฟ้องเฟซบุ๊กในข้อหาผูกขาดตลาดโซเชียลมีเดีย ขณะที่หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.95% หุ้นอัลฟาเบท ร่วงลง 1.85% หุ้นแอมะซอนดอทคอม ดิ่งลง 2.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 3.72% หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.09%
หุ้นไฟร์อาย (FireEye) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการความปลอดภัยทางไซเบอร์ ร่วงลงอย่างหนักถึง 13.08% หลังมีรายงานว่า แฮกเกอร์ได้เจาะเข้าระบบเครื่องมือของบริษัทที่ใช้ในการทดสอบความปลอดภัยของลูกค้า
หุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 1.67% หลังจากสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) เตือนว่า ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค หลังจากมีรายงานพบผู้ที่เกิดอาการข้างเคียง หลังได้รับวัคซีนดังกล่าว
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.33% หุ้นออคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ดีดขึ้น 1.41% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ เพิ่มขึ้น 1.38%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 1.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ย.
ทางด้านสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 6.65 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.5%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน