ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) ขานรับข่าวอังกฤษเริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้แก่ประชาชน ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 369.11 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,564.29 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด หรือ +0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,340.26 จุด เพิ่มขึ้น 61.77 จุด หรือ +0.47% ส่วนดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,546.82 จุด ลดลง 13.85 จุด หรือ -0.25%
อังกฤษได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้แก่ประชาชนวานนี้ โดยเริ่มจากกลุ่มผู้สูงอายุ และบุคลากรทางการแพทย์ โดยข่าวการฉีดวัคซีนดังกล่าวได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศต่างๆ
นักลงทุนยังคงจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) ขณะที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แสดงความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์
หุ้นโคเวสโตร ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2563 ที่แข็งแกร่งเกินคาด พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีงบการเงิน 2563
หุ้น STMicroelectronics ร่วงลง 10% หลังจากบริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ในระยะกลาง โดยระบุถึงผลกระทบจากการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร รวมทั้งข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ