ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.77% ปิดที่ 390.12 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,114.30 จุด ลดลง 181.43 จุด หรือ -1.36%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,507.55 จุด ลดลง 42.10 จุด หรือ -0.76% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,546.75 จุด ลดลง 53.01 จุด หรือ -0.80%
ตลาดหุ้นยุโรปเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องมาจากวันพฤหัสบดี หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนที่ซบเซาในปีหน้า
แนวโน้มที่อังกฤษจะถอนตัวออกจาก EU แบบไร้ข้อตกลง (no-deal Brexit) นั้น ส่งผลถ่วงตลาดลงด้วย โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้นเพื่อรอดูกำหนดเส้นตายในวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.นี้ที่อังกฤษและ EU จะต้องบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในสหรัฐถ่วงตลาดลงด้วย โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า การเจรจามาตรการเยียวยาเศรษฐกิจดังกล่าวอาจจะยืดเยื้อไปจนถึงช่วงคริสต์มาส
หุ้นซาโนฟีของฝรั่งเศส ร่วง 4% หลังเปิดเผยว่าวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาร่วมกับแกล็กโซ่สมิธไคลน์ (GSK) นั้น ยังให้การตอบสนองในการสร้างภูมิคุ้มกันที่ไม่เพียงพอในการทดลองทางคลินิก ขณะที่หุ้น GSK ลดลง 0.3%
หุ้นโรลส์-รอยซ์ ร่วง 7.9% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์กระแสเงินสดไหลออกของปีนี้ และเตือนว่าแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทยังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก